Loader
สมัครเล่นบาคาร่า SSGAME350 มีเครดิตฟรีทดลองเล่น เว็บคาสิโนออนไลน์ UFA350 ทดลองเล่นฟรี
เว็บบาคาร่าออนไลน์ SSGAME6666 เครดิตฟรี เว็บแทงบอล UFAC4 พนันบอลดีที่สุด
แทงบอลออนไลน์ เว็บตรง UFABET สมัครเล่นคาสิโนออนไลน์ SAGAME66 เว็บรวมบาคาร่าออนไลน์
เว็บคาสิโนออนไลน์ JUAD888 เครดิตฟรี ทางเข้าแทงบอลออนไลน์ UFAZEED
เว็บสล็อตออนไลน์ SAGAME350 รวมสล็อตครบทุกค่ายเกม เว็บบาคาร่าอันดับหนึ่ง BACCARAT.GAME
เว็บบอร์ดพนันออนไลน์ รายใหญ่ของไทย Coinbet999 เว็บรวมคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุด

ลิเวอร์พูลพิการ, แมนยูขาดความมั่นใจ! เจาะ 5 ประเด็นก่อนเกมแดงเดือด

เริ่มโดย ทีเด็ดวันนี้, ส.ค 22, 2022, 12:28 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป


เจอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ลิเวอร์พูล และ เอริก เทน ฮาก กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีภารกิจสำคัญในการนำลูกทีมลงดวลศึก "แดงเดือด" วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคมนี้ โดย 2 ผู้จัดการทีมต้องพยายามเรียกฟอร์มของลูกทีมกลับมาให้ได้ หลังพวกเขายังควานหาชัยชนะไม่ได้เลยในซีซั่นนี้ โดย "หงส์แดง" และ "ผีแดง" ต่างมีปัญหาเมื่อรายแรกนักเตะบาดเจ็บเพียบแถมโดนแบนด้วย ส่วนเจ้าบ้านผู้เล่นฟอร์มตกขาดความมั่นใจยกกระบิ ดังนั้นหากทีมไหนคว้าสามแต้มได้อาจจะทำให้พวกเขากลับสู่เส้นทางที่เหมาะสมเลยทีเดียว

1.กาเซมีโร่ อาจได้แค่ดู "แดงเดือด"



หลังจากที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศยืนยันว่าได้เซ็นสัญญากับ กาเซมีโร่ เรียบร้อยแล้วเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แน่นอนว่านี่คือหนึ่งในจิ๊กซอว์ที่แฟนบอล "ปีศาจแดง" เฝ้ารอมานาน เพราะพวกเขาจะได้เห็นกองกลางชั้นดีที่จะเข้ามาคุมจังหวะการเล่นให้กับทีม และจะไม่ต้องเห็นคู่หูนรกแตก สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ กับ เฟร็ด อีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ดาวเตะชาวบราซิเลียน อาจจะไม่ได้ลงสนามในเกม "แดงเดือด" วันจันทร์นี้ เนื่องจากนักเตะยังมีปัญหาเรื่องวีซ่า ทำให้ไม่สามารถลงทะเบียนได้ทัน ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงที่เหล่าบรรดาสาวก "เร้ด อาร์มี่" จะได้เห็น "แม็คเฟร็ด" ลงสนามในแมตช์สำคัญนี้ที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด

2.แนวรุกสองทีมยังต้องปรับเยอะ



ลิเวอร์พูล ได้ชื่อว่าเป็นทีมที่มีเกมรุกดุดันอย่างมากในช่วง 2-3 ฤดูกาลที่ผ่านมา แต่สำหรับซีซั่นนี้ต้องยอมรับว่าแดนหน้าของพวกเขาค่อนข้างมีปัญหา เพราะมีการเปลี่ยนเทกำลังสำคัญเมื่อ ซาดิโอ มาเน่ อำลาทีมไปเล่นกับ บาเยิร์น มิวนิค แม้พวกเขาจะได้ ดาร์วิน นูนเญซ มาร่วมทัพแต่นักเตะยังเล่นแบบเก้ๆ กังๆ จังหวะการจับบอลและยิงประตูยังไม่เนียนตาเหมือนสมัยอยู่ เบนฟิก้า แถมยังโดนแบน 3 เกมจากใบแดงแมตช์เสมอ คริสตัล พาเลซ งานนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ต้องฝากความหวังในการทำประตูเอาไว้กับ หลุยส์ ดิอาซ, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ขณะที่ แมนฯ ยูไนเต็ด อาการหนักยิ่งกว่าเพราะแนวรุกของพวกเขาจนถึงตอนนี้ยังไม่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ดเลย ทั้ง มาร์คัส แรชฟอร์ด, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, เจดอน ซานโช่ ฟอร์มยังออกทะเล ส่วนกำลังสำรองอย่าง แอนโธนี่ อีลันก้า ผลงานยังไม่สามารถฝากความหวังเอาไว้ได้เลย ดังนั้นนี่เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่ เอริก เทน ฮาก ต้องพยายามปรับแก้ไปแบบเกมต่อเกม

3.ลิเวอร์พูล พิการ, แมนยูขาดความมั่นใจ



แม้ว่าช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด จะเป็นเบี้ยล่างให้กับคู่อริตลอดกาลมานาน แต่สำหรับฤดูกาลนี้หลายๆ สถานกาณ์ทำให้เกม "แดงเดือด" มีความสูสีกัน เนื่องจากตั้งแต่ต้นซีซั่น ลิเวอร์พูล กลายสถานเป็นทีมพิการอีกครั้งเมื่อพวกเขามีผู้เล่นบาดเจ็บยาวเป็นหางว่าวถึง 10 คนแถมอีก 1 คนก็ติดโทษแบน โดยเฉพาะในแผงกองหลัง, มิดฟิลด์ และแดนหน้าที่ขาดผู้เล่นตัวหลักอย่าง โจ โกเมซ, อิบราฮิม่า โกนาเต้, ติอาโก้ อัลกันทาร่า, เคอร์ติส โจนส์ และ ดีโอโก้ โชต้า ส่วน นูนเญซ ต้องไปพักสงบสติอารมณ์จากพฤติกรรมที่ขาดความยั้งคิด ขณะที่ "ผีแดง" แม้ว่าตัวผู้เล่นหลักจะอยู่ครบแต่สิ่งที่พวกเขาขาดหายไปในเวลานี้นั่นก็คือ "ความมั่นใจ" ส่วนจุดแฟนผีโปรเจกต์หวั่นใจที่สุดนั่นก็คือคู่เซนเตอร์แบ็ก มีความเป็นไปได้ว่า เทน ฮาก จะเลือกดร็อป แฮร์รี่ แม็กไกวร์ และใช้งาน ลิซานโดร มาร์ติเนซ กับ ราฟาแอล วาราน ซึ่งในรายของกองหลังชาวอาร์เจนไตน์ เพิ่งจะโดนเผาเครื่องมา 2 เกม แต่ดูท่าทาง นายใหญ่เลือดดัตช์ จะเชื่อมั่นในศักยภาพของเขามากกว่า "กัปตันแฮร์รี่" ที่เป็นแบบนั้นเพราะเขามองแล้วว่า "หงส์แดง" ไม่ใช่ทีมที่เน้นใช้ร่างกายปะทะ และไม่มีกองหน้าตัวใหญ่ ฉะนั้นจังหวะอันตรายจากลูกโด่งน่าจะน้อยกว่า ไบรท์ตัน และ เบรนท์ฟอร์ด

4.ซาลาห์ สุดอันตรายในเกมแดงเดือด



เป็นที่ทราบกันดีว่า ซาลาห์ คือนักเตะที่อันตรายที่สุดของ "เดอะ เร้ดส์" และเป็นตัวความหวังในเกมรุกของสโมสร หลังจากที่พวกเขาไม่มี มาเน่ อีกแล้ว ขณะที่ ดิอาซ ยังสามารถปั่นป่วนเกมรับของคู่แข่งได้ แต่ยังขาดความเฉียบคมแม้เกมล่าสุดจะยิงประตูสุดงามก็ตาม ย้อนกลับมาที่ "บังโม" ต้องบอกว่าเป็นแข้งที่ขู่เกมรับของเจ้าบ้านได้ดีเสมอ เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา "คิง ออฟ อียิปต์" เพิ่งสร้างสถิติเป็นนักเตะลิเวอร์พูลคนแรกที่ยิงแฮตทริกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นับตั้งแต่ เฟร็ด ฮาว เคยทำได้ในปี 1936 ที่สำคัญพวกเขายังถล่มคู่อริร่วมชาติคาบ้าน 5-0 และเมื่อรวมสกอร์เหย้า-เยือน "ผีแดง" สุดช้ำเสียไปถึงเก้าประตูเลยทีเดียว นอกจากนี้ ซาลาห์ ยังเป็นนักเตะคนแรกที่สามารถยิงประตู แมนฯยูไนเต็ด ได้ถึง 5 ประตูในฤดูกาลเดียว ส่วน "แดงเดือด" วันจันทร์นี้จะเพิ่มสถิติได้หรือไม่ สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องไปลุ้นหน่อย

5.สถานการณ์บีบให้ต้องชนะทั้งสองทีม



ตอนนี้แฟนบอลแมนฯ ยูฯ และลิเวอร์พูล กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ตึงเครียดกันเหลือเกิน เพราะพวกเขายังไม่สามารถสะกดคำว่า "ชนะ" ได้เลย หลังจากลงเล่นเกมพรีเมียร์ลีก ไปแล้ว 2 แมตช์ แต่ในรายของ "ปีศาจแดง" ค่อนข้างอาการหนักเนื่องจากพวกเขาแพ้เรียบวุธ ส่วน "หง์แดง" เสมอ 2 แมตช์ ฉะนั้นในแมตช์นี้ต้องบอกเลยว่าดีกรีความเดือดคงเพิ่มเป็นทวีคูณ เพราะทั้งสองทีมต้องการ 3 แต้มอย่างมาก เพื่อให้ทีมกลับมาสู่เส้นทางที่เหมาะสม และเป็นการเรียกขวัญกำลังใจด้วย ดังนั้นชัยชนะในศึกครั้งนี้ อาจจะเป็นจุดหักเหให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ในช่วงที่เหลืออยู่ของฤดูกาลนี้ก็ได้
ทางเข้าเล่นเว็บอันดับหนึ่งที่เราแนะนำ :
- bacc66.org
- livescore350.com
- aesexy350.com
- bacc777casino.com
- slotman.org

เว็บตรงสล็อต CQ9 GAMING เล่นง่ายได้เงินจริง สมัครสล็อตโจ๊กเกอร์ JOKER GAMING แจ็คพ็อตแตกง่าย เว็บตรงสล็อตออนไลน์ GAME350 สมัครบาคาร่า SA GAMING รับโบนัส 50% ทางเข้า UFABET เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์