Loader

เมสซี่โชว์-เลาตาโร่เด็ด! อาร์เจนตินาถล่มอิตาลี ซิวแชมป์ฟินาลิสซิม่า

เริ่มโดย ข่าวสดกีฬา, มิ.ย 02, 2022, 06:27 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป


ฟ้าขาวซิวฟินาลิสซิม่า! เมสซี่ โชว์พลิ้ว-เลาตาโร่ ทั้งยิงและจ่ายพา อาร์เจนตินา แชมป์อเมริกาใต้ ปราบแชมป์ยุโรป อิตาลี แบบสนุก 3-0 คว้าถ้วยศึกแชมป์ชนแชมป์ ครั้งที่ 3 ภายใต้ชื่อ "ฟินาลิสซิม่า" มาครองได้สำเร็จ และนับเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1993 หรือ 29 ปีที่แล้ว ที่พวกเขาคว่ำเดนมาร์กมาได้

    "ฟินาลิสซิม่า" ศึกแชมป์ชนแชมป์ ที่สนาม เวมบลี่ย์ ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนวันพุธที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมาระหว่าง แชมป์ยุโรป อิตาลี พบกับ แชมป์อเมริกาใต้ อาร์เจนตินา ซึ่งรายการนี้ถือเป็นการนำเอามาปัดฝุ่นจัดขึ้นอีกครั้งในรอบ 29 ปี และนับเป็นครั้งที่ 3 หลังจากสองครั้งล่าสุดคือเมื่อปี ในปี 1985 ฝรั่งเศส คว้าแชมป์หลังเอาชนะ อุรุกวัย 2-0 ก่อนที่หนที่สองในปี 1993 อาร์เจนตินา จะเฉือนจุดโทษเอาชนะ เดนมาร์ก 5-4 หลังเสมอในเวลา 1-1

    โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซืออิตาลี อดพาทีมไปเล่น ฟุตบอลโลก 2022 ปลายปีนี้ที่ประเทศกาตาร์ ส่งสามแนวรุกอย่าง เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่, อันเดรีย เบล็อตติ และจานลูก้า ราสปาโดรี่ ล่าตาข่าย ส่วนทางฝั่ง อาร์เจนตินา ซึ่งมี ลิโอเนล สกาโลนี่ คุมทัพส่ง เลาตาโร่ มาร์ติเนซ หน้าเป้า และให้ อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี่ และโจวานนี่ โล เซลโซ่ ขับเคลื่อนเกมอยู่ข้างหลัง

    เปิดฉากครึ่งแรก แค่สองนาทีแรก ทัฟฟ้าขาวเกือบได้ลุ้นหลัง ดิ มาเรีย ลักไก่ตักบอลกว่า 40 หลา บอลพุ่งข้ามหัว ดอนนารุมม่า แต่ไม่ตรงกรอบ จากนั้นนาทีที่ 5 เมสซี่ เรียกฟรีคิกหน้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะลุกมาปั่นไปติดกำแพง

    นาที 12 แชมป์ยุโรป โอกาสน้อยแต่สวนมาทีได้ลุ้นหลัง จอร์จินโญ่ ไหลให้ จานโคโม่ ราสปาโดรี่ พลิกตัวซัดด้วยขวาแต่ยังไปตรงตัว เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ รับเข้าซองไว้ได้

    ทัพอัซซูร์รี่ เริ่มครองเกมได้มากขึ้นและหาโอกาสโจมตีฟ้าขาวได้บ่อยครั้ง นาที 21 ได้ลุ้นจากลูกโขกของ เบล็อตติ แต่บอลย้อยไปเข้ามือ มาร์ติเนซ จากนั้นอีกสองนาทีต่อมา อิตาลี ได้ลุ้นฟรีคิกจากนอกกรอบแต่ จานลูก้า ราสปาโดรี่ ซัดไปติดกำแพงก่อนบอลจะกระดอนมาเข้าขวาสวนอีกครั้งก็ยังติดบล็อคออกหลังเป็นเตะมุม

    แต่แล้ว นาที 28 กลายเป็น อาร์เจนตินา ที่ชิงขึ้นนำจนได้ 1-0 จากจังหวะที่อิตาลีเสียการครองบอลกลางสนาม โล เซลโซ่ แทงขึ้นหน้าให้ เมสซี่ พลิกบอลหลบ ดิ ลอเรนโซ่ ก่อนเบียดกระชากไปถึงเส้นหลังแล้วตบเข้ากลางประตูให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ จิ้มเข้าไปไม่ถึง 5 หลาง่ายๆ
   
    หลังเสียประตู ลูกทีมของมันชินี่ โหมบุกขึ้นมาบ้างเพื่อหวังตีเสมอ นาที 30 นิโกโล่ บาเรลล่า อัดด้วยขวาเต็มแรงจากนอกกรอบแต่ยังไม่ผ่านมือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ พุ่งปัดออกไปหวุดหวิด

    กระนั้นช่วงทดเจ็บ นาที 45+1 ทัพ "ฟ้าขวา" มาบวกเม็ดที่สองเพิ่มจากจังหวะที่ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ สาดยาวจากหน้าประตูมาให้ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ จับบอลลงก่อนพลิกหนี โบนุชชี่ แล้วแทงตัดหลัง คิเอลลินี่ ให้ ดิ มาเรีย หลุดเดี่ยวเข้าไปชิพบอลเบาๆหนีตัว ดอนนารุมม่า เข้าก้นตาข่าย ให้ อาร์เจนตินา นำห่าง อิตาลี 2-0 ก่อนที่ครึ่งแรกจะจบลงด้วยสกอร์นี้

    ครึ่งหลัง โรแบร์โต้ มันชินี่ นายใหญ่อิตาลีเปลี่ยน 3 คนรวดส่ง มานูเอล โลคาเตลลี่, มานูเอล ลาซซารี่ และจานลูก้า ซมามัคก้า ลงมาเล่นแทน เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ และอันเดรีย เบล็อตติ
   
    นาที 59 มานูเอล โลคาเตลลี่ ตัวสำรองของอิตาลีที่เพิ่งลงมาได้ลองวอลเลย์จากนอกกรอบแต่บอลยังไม่แรงพอก่อนพุ่งไปเข้ามือ เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ

    เกมผ่านไปครบหนึ่งชั่วโมงพอดี "ฟ้าขาว" เกือบได้เม็ดที่สามหนีห่าง บอลจากแดนหลัง โอตาเมนดี้ วางยาวมาให้ ดิ มาเรีย หลุดมาทางซ้ายก่อนลากตัดเข้ากลางแล้วปั่นด้วยซ้ายข้างถนัดบอลกำลังจะมุดใต้คานเข้าอยู่แล้วแต่ ดอนนารุมม่า ยังเหนียวเหินปัดออกไปได้

    อีกสองนาทีถัดมา ดิ มาเรีย คนเดิมเกือบได้ลุ้นอีกหลังวิ่งมาวอลเลย์แบบไม่จับกลางประตูบอลพุ่งแรงจน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า ต้องทุบออกไป

    แชมป์อเมริกาใต้ บุกรัวมาเป็นชุดๆ นาที 64 เมสซี่ หลุดมาทางขวาก่อนครอสเลียดไปถึงเสาไกลให้ โจวานนี่ โล เซลโซ่ วิ่งมาซัดแบบไม่จับแต่บอลพุ่งเข้าข้างตาข่ายอย่างน่าเสียดาย

    อีกนาทีต่อมา เมสซี่ เบียดแย่งบอลจาก จอร์จินโญ่ ก่อนจะโซโล่ลากเดี่ยวเข้าไปซัดมุมแคบแต่ยังไปติด ดอนนารุมม่า ก่อนโดนแนวรับอัซซูร์รี่เคลียร์ออกหลัง

    ท้ายเกม นาที 80 อาร์เจนตินา น่าจะได้เม็ดที่สามนำห่างหลัง ดิ มาเรีย ครอสบอลจากขวามาถึง โล เซลโซ่ ดึงจังหวะก่อนปั่นไปเสาไกลแต่ยังไม่พ้นแนวรับอิตาลีที่โขกพ้นอันตรายไปได้

    นาทีสุดท้ายของการทดเจ็บ น.90+4 "ฟ้าขาว" มาได้ประตูปิดกล่องนำห่าง 3-0 หลัง เมสซี่ พาบอลมาหน้ากรอบก่อนไหลให้ เปาโล ดีบาล่า ตัวสำรอง ซัดเข้าไปไม่เหลือ

    จบเกม อาร์เจนตินา เอาชนะ อิตาลี 3-0 คว้าถ้วยศึกแชมป์ชนแชมป์ ครั้งที่ 3 ภายใต้ชื่อ "ฟินาลิสซิม่า" มาครองได้สำเร็จ และนับเป็นสมัยที่ 2 ต่อจากปี 1993 หรือ 29 ปีที่แล้ว ที่พวกเขาคว่ำเดนมาร์กมาได้

    รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม

        อิตาลี (4-3-3) : จานลุยจิ ดอนนารุมม่า - โจวานนี่ ดิ ลอเรนโซ่, เลโอนาร์โด้ โบนุชชี่, จอร์โจ้ คิเอลลินี่ (มานูเอล ลาซซารี่ น.46), เอเมอร์สัน พัลมิเอรี่ (อเลสซานโดร บาสโตนี่ น.77) - นิโกโล่ บาเรลล่า, จอร์จินโญ่, มัตเตโอ เปสซิน่า (ลีโอนาร์โด้ สปินาซโซล่า น.62) - เฟเดริโก้ แบร์นาร์เดสคี่ (มานูเอล โลคาเตลลี่ น.46), อันเดรีย เบล็อตติ (จานลูก้า ซมามัคก้า น.46), จานลูก้า ราสปาโดรี่

    เทรนเนอร์ : โรแบร์โต้ มันชินี่

        อาร์เจนตินา (4-2-3-1) : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ - นาฮูเอล โมลิน่า, คริสเตียน โรเมโร่ (เกร์มัน เปซเซลล่า น.84), นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโกลัส ตายาฟิโก้ - โรดริโก้ เด ปอล (เอเซเกล ปาลาซิออส น.76), กุยโด้ โรดริเกซ - อังเคล ดิ มาเรีย (นิโกลัส กอนซาเลซ น.90+1), ลิโอเนล เมสซี่, โจวานนี่ โล เซลโซ่ (เปาโล ดีบาล่า น.90+1) - เลาตาโร่ มาร์ติเนซ (ฮูเลี่ยน อัลบาเรซ น.84)

    เทรนเนอร์ : ลิโอเนล สกาโลนี่