Loader

แมนซิสถิติหรู-ลิเวอร์พูลไม่ง่าย! 6 ประเด็นร้อนก่อนเกม พรีเมียร์ลีก นัดที่ 36

เริ่มโดย สปอร์ตใจดี, พ.ค 07, 2022, 08:44 หลังเที่ยง

หัวข้อก่อนหน้า - หัวข้อถัดไป


เข้าสู่แมตช์เดย์ที่ 36 ของศึก พรีเมียร์ลีก การลุ้นแชมป์ยังสนุกเข้มข้นเช่นเคย ทว่างานของ แมนฯ ซิตี้ อาจเบาสบายกว่า ลิเวอร์พูล เมื่อดูจากสถิติที่เจอกับคู่แข่ง ส่วนทีมอื่น ๆ จะเป็นอย่างไรบ้าง ไปดูกันได้เลย

    "เชลซี-วูล์ฟส์"



    เมสัน เมาท์ มิดฟิลด์ดีกรีทีมชาติอังกฤษ ของ เชลซี คือผู้นำดาวซัลโว (10) และแอสซิสต์ (9) ในทีม "สิงห์บลูส์" บนเวที พรีเมียร์ลีก ซึ่งในขณะนี้มีแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คนเดียวในลีกเท่านั้นที่มียอดจำนวนประตูกับแอสซิสต์แตะเลขสองหลักทั้งคู่
   
    ซึ่งหาก เมาท์ เพิ่มยอดแอสซิสต์ได้อีกหนึ่งครั้งก็จะทำให้เขาเป็นผู้เล่น เชลซี รายที่ 5 ที่ทำประตูและแอสซิสต์ได้อย่างละ 10 หนขึ้นไปในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลเดียวต่อจาก แฟร้งค์ แลมพาร์ด (4 ครั้ง), ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา(3 ครั้ง), ฆวน มาต้า (2012/13) และ เอเด็น อาซาร์ (2018/19)

    สองเกมล่าสุดที่ เชลซี เจอกับ วูล์ฟส์ ในลีกจบลงด้วยการที่ไม่มีประตูเกิดขึ้นเลย ซึ่งจากประวัติศาสตร์เกมลีกที่ผ่านมานั้น "สิงโตน้ำเงินคราม" ยังไม่เคยเสมอกับทีมใดทีมหนึ่ง 0-0 สามเกมติดต่อกัน

    ทั้ง เชลซี (20/29) และ วูล์ฟส์ (22/32) เป็นสองทีมที่มีเปอร์เซ็นต์เสียประตูในช่วงครึ่งเวลาหลังมากสุด โดยตัวเลขอยู่ที่ 69% ของจำนวนที่พวกเขาเสียทั้งหมด

    นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 1979 ในการออกไปเยือน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในลีก 8 เกมหลังสุดของ วูล์ฟส์ จบลงด้วยการไร้ชัยชนะทั้งสิ้น (เสมอ 3 แพ้ 5) อีกทั้งพวกเขาไม่สามารถเจาะตาข่ายทีมเจ้าถิ่นถึง 6 นัดจากจำนวนนัดดังกล่าวอีกด้วย

    "ไบรท์ตัน-แมนยู"



    แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีสถิติดีสุด ๆ เวลาเจอกับ ไบรท์ตัน ทุกรายการ ซึ่งความยอดเยี่ยมนั้นก็คือพวกเขาเอาชนะได้ตลอด 7 เกมที่เจอกันหลังสุด นับเป็นสถิติยาวที่สุดที่ "ปีศาจแดง" ยัดเยียดความปราชัยให้แก่คู่แข่งระดับ พรีเมียร์ลีก

    คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ถลุงไปแล้ว 18 ประตูจาก 29 นัดในลีกปีนี้ เทียบเท่ากับที่เขาเคยทำได้ตอนฤดูกาลสุดท้ายที่อยู่ แมนฯ ยูไนเต็ด คำรบก่อน (18 ประตูจาก 33 เกมตอนซีซั่น 2008/09) ขณะที่แข้ง "เร้ด เดวิลส์" คนล่าสุดที่ยิงได้มากกว่า 18 ประตูในลีกคือ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ย์ (26) ตอนฤดูกาล 2012/13

    นับตั้งแต่ย้ายออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด แดนนี่ เวลเบ็ค เจาะตาข่ายทีมเก่าไปแล้ว 3 ประตูจาก 8 เกม ซึ่งเขาเป็นอดีตเด็กผีที่สอยประตูใส่อดีตต้นสังกัดมากที่สุด

    เลอันโดร ทรอสซาร์ มีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมกับ "เดอะ ซีกัลส์" โดยทำไปแล้ว 7 ประตูในปีนี้ เป็นรองแค่ นีล โมเปย์ (8) เท่านั้น นอกจากนี้ดาวเตะทีมชาติเบลเยี่ยม ทำประตูได้ 3 ลูกจาก 4 เกมหลังสุด เทียบเท่ากับก่อนหน้านี้ที่ต้องใช้จำนวนนัดถึง 24 เกม

    "ลิเวอร์พูล-สเปอร์ส"



    สองครั้งที่ อันโตนิโอ คอนเต้ นำทีมบุกเยือน แอนฟิลด์ นั้นจบลงด้วยสกอร์ 1-1 ทั้งสองเกม ซึ่งจากผู้จัดการทีมทั้งหมดที่เจอ ลิเวอร์พูล ที่นี่นั้นมีแค่ 4 รายเท่านั้นที่ไม่แพ้ "หงส์แดง" ตลอด 3 เกมแรก ได้แก่ มาร์ติน โอนีล, ปีเตอร์ รีด, รอย ฮ็อดจ์สัน และ พอล แลมเบิร์ต

    อย่างไรก็ตาม ลิเวอร์พูล แพ้ต่อ ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ ในบ้านตัวเองแค่ครั้งเดียวจาก 27 เกม พรีเมียร์ลีก ที่เจอกัน (ชนะ 18 เสมอ 8) อีกทั้ง 10 เกมหลังสุดที่นี่ก็ไม่ปราชัยเลย(ชนะ 7 เสมอ 3) หนเดียวที่แพ้นั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคม ปี 2011

    การเจอกันของคู่นี้นับเป็นคู่ที่ยิงกันมากที่สุดอันดับสองของลีก (170 ประตูจาก 59 นัด) โดยนับตั้งแต่เกมที่เจ๊ากัน 0-0 เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2015 การการเจอกันของคู่นี้ก็มีประตูเกิดขึ้นอย่างน้อย 1 ลูกมา 14 เกมติดต่อกันในทุกรายการเข้าไปแล้ว ถึงกระนั้นในจำนวนดังกล่าว  สเปอร์ส เป็นฝ่ายได้ขึ้นนำ 1-0 เพียงแค่ 3 หนเท่านั้น ขณะเดียวกัน "หงส์แดง"-"ไก่เดือยทอง" เป็นแมตช์ที่มีจุดโทษเกิดขึ้นมากที่สุดด้วยจำนวน 23 ครั้ง

    แฮร์รี่ เคน มีส่วนร่วมกับประตูที่ สเปอร์ส ทำได้ใส่ ลิเวอร์พูล 9 จาก 13 เกม (7  ประตู 2 แอสซิสต์) โดย 5 ลูกเกิดขึ้นจาก 7 เกมที่มาเยือน แอนฟิลด์ (4 ประตู 1 แอสซิสต์)   

    "อาร์เซน่อล-ลีดส์"



    ลีดส์ ยูไนเต็ด ลงเล่นเกมเยือนในลีก 2 นัดหลังสุดพวกเขาสามารถเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ 8 เกม "ยูงทอง" เสียประตูมาโดยตลอด และเสียไปถึง 27 ลูก ขณะเดียวกัน หนล่าสุดที่ ลีดส์ ไม่เสียประตูเกมเยือนบนศึก พรีเมียร์ลีก 3 นัดติดต่อกันเกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคม 1996 สมัยที่ จอร์จ เกรแฮม คุมทัพ

    อาร์เซน่อล เอาชนะ ลีดส์ ติดต่อกันทุกรายการมาแล้ว 3 นัด ซึ่งหนสุดท้ายที่พวกเขายัดเยียดความปราชัยต่อ "ยูงทอง" 4 เกมติดได้ก็ต้องย้อนไปเมื่อช่วงระหว่างเดือนพฤศจิกายน ปี 1936 ถึงเดือนเมษายน ปี 1938

    ก่อนหน้าเกมสุดสัปดาห์นี้จะเริ่มขึ้น มีแค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (26) กับ ลิเวอร์พูล (25) สองทีมเท่านั้นที่เก็บชัยในลีกซีซั่นนี้ได้มากกว่า อาร์เซน่อล (20) โดย "เดอะ กันเนอร์ส" มีช่วงเวลาที่คว้าชัย 3 เกมติดต่อกันขึ้นไปถึง 5 หน อย่างไรก็ตาม มีแค่ วัตฟอร์ด กับ เวสต์แฮฒ (ทีมละ 8)     ที่มีระยะเวลาจำนวนนัดที่ไม่สามารถเก็บคลีนชีตได้มากกว่าพวกเขา (6)

    ลีดส์ ยูไนเต็ด ไม่แพ้เกมเยือนติดต่อกันมาแล้ว 3 นัด(ชนะ 2 เสมอ 1) โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาไม่แพ้เกมนอกบ้านนานกว่านี้คือต้องย้อนไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2001 (4)

    "เลสเตอร์-เอฟเวอร์ตัน"



    เอฟเวอร์ตัน มองหาชัยชนะในนัดที่ออกเยือน เลสเตอร์ ซิตี้ เป็นเกมที่สองติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 1997 หลังปีก่อนพวกเขาบุกเก็บสามแต้มได้ 2-0

    "เดอะ ฟ็อกซ์" ไม่ชนะใครเลยตลอด 4 เกมหลังสุดที่ลงเล่นเกมลีก (เสมอ 2 แพ้ 2) ก็จริง แต่การเล่นในบ้านของพวกเขาก็ไม่แพ้มาแล้ว 6 นัด (ชนะ 3 เสมอ 3) อีกทั้งยังเอาชนะคู่แข่งได้ 8 จาก 9 นัดที่ลงเตะเจอกับทีมกลุ่มโซนตกชั้น (เสมอ 1) โดยการแพ้คือพ่ายต่อ ฟูแล่ม 1-2 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2020

    ริชาร์ลิซอน ทำประตูในลีก 5 จาก 7 เกมหลังสุดที่เจอกับ เลสเตอร์ ซึ่งไม่มีทีมไหนอีกแล้วที่เขาจะยิงได้มากกว่าการยิง เลสเตอร์

    4 ประตูของ เคลิชี่ อิเฮียนาโช่ ในซีซั่นนี้เกิดขึ้นจากเกมที่ออกไปเยือน มีแค่ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดาวยิง ลิเวอร์พูล เท่านั้นที่ยิงยามเล่นยอกบ้านได้มากกว่าเขา (5)

    "แมนฯ ซิตี้-นิวคาสเซิ่ล"



    นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ไม่เคยเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก พรีเมียร์ลีก ที่สนาม เอติฮัด ได้เลยตลอดการลงเล่น 16 นัด (เสมอ 2 แแพ้ 14) โดย 12 เกมหลังกลับออกมาด้วยความปราชัยทั้งสิ้น โดยครั้งสุดท้ายที่พวกเขาบุกชนะ ซิตี้ ได้นั้นคือสมัยที่ยังเล่นที่ เมน โร้ด ตอนเดือนกันยายน ปี 2020 ซึ่ง อลัน เชียเรอร์ เป็นคนทำประตูชัย 1-0

    "เรือใบสีฟ้า" แพ้ "เดอะ แม็กพายส์" ครั้งเดียวตลอดการเจอกัน 28 เกมลีก (ชนะ 23 เสมอ 4) โดยในจำนวนนัดดังกล่าวเกมเดียวที่แพ้คือการบุกพ่ายที่ เซนต์ เจมส์ พาร์ค 2-1 เมื่อเดือนมกราคม ปี 2019

    มีแค่ ลิเวอร์พูล (41) และ แมนฯ ซิตี้ (33) เท่านั้นที่เก็บแต้มในลีกในปี 2022 ได้มากกว่า นิวคาสเซิ่ล (32) อย่างไรก็ดี "สาลิกาดง" แพ้ 3 จาก 4 เกมที่ออกไปเล่นนอกบ้านตัวเอง (ชนะ 1)

    กาเบรียล เชซุส มีส่วนร่วมกับประตู 76 ลูกจาก 96 เกมที่ลงเล่นเป็นตัวจริงเกมลีก (53 ประตู 23 แอสซิสต์) ซึ่งคิดเป็น 58% ของจำนวนเกมที่เขาลงเล่นเป็นตัวจริง หรือพูดง่าย ๆ คือมีถึง 56 เกมจาก 96 นัดที่ออกสตาร์ท กองหน้าแซมบ้ารายนี้มีส่วนร่วมกับประตูไม่ว่าจะยิงเอง หรือจ่ายให้เพื่อน โดยท่ามกลางผู้เล่นที่ลงสนามอย่างน้อย 10 นัดมีแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (62%), เธียร์รี่ อองรี (61%) และ เซร์คิโอ อเกวโร่ (60%) เท่านั้นที่มีส่วนร่วมกับประตูในนัดที่ลงเเป็นตัวจริงในเปอร์เซ็นต์ที่มากกว่าเขา


Similar topics (5)