(https://static.siamsport.co.th/news/2022/05/27/news202205271910183.jpg)
"กอล์ฟ" อดิศักดิ์ ไกรษร ปั่นโค้งๆ ให้ทีมชาติไทย เฉือนชนะ เติร์กเมนิสถาน 1-0 เก็บชัยชนะในเกมอุ่นแข้งนัดฟีฟ่าเดย์ ได้อย่างสวยงาม นัดต่อไป วันที่ 31 พฤษภาคม นี้ ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติบาห์เรน ที่ บีจี สเตเดียม จังหวัดปทุมธานี
ฟุตบอลอุ่นเครื่อง
(FIFA International "A" Match)
วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม 2565
ทีมชาติไทย 1-0 ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน
การแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่อง (FIFA International "A" Match) มีการคิดคะแนนฟีฟ่า ประจำวันศุกร์ที่ 27 พ.ค.65 ที่สนามกีฬากลาง จ.ศรีสะเกษ เวลา 17.30 น. เป็นเกมคู่ระหว่าง ทัพ "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทีมอันดับ 111 ของโลก ลงสนามพบกับ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ทีมอันดับ 134 ของโลก
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงในเกมนี้ของทัพ "ช้างศึก" ที่มี มาโน่ โพลกิ้ง คุมทัพ ได้จัดทัพวางระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), จักพัน ไพรสุวรรณ, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สารัช อยู่เย็น, เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, และกัปตันทีม ธีรศิลป์ แดงดา
(https://static.siamsport.co.th/files/images/S__24657933.jpg)
เริ่มเกม น.3 โอกาสจบสกอร์หนแรกเป็นของช้างศึกเมื่อ ธีรศิลป์ แดงดา ได้โอกาสยิงบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่บอลไปแฉลบแนวรับเติร์กเมนิสถาน ออกหล้งไป
น.18 เติร์กเมนิสถาน ได้ลุ้นประตูขึ้นนำบ้างจากจังหวะที่ บายอฟ เบกมายรัต ได้บอลฝั่งซ้ายก่อนจะหัดเข้ากลางและยิงด้วยซ้าย แต่บอลโค้งไม่พอเฉียดเสาออกไปนิดเดียว
ถัดมานาทีเดียวทีมชาติไทย น่าจะได้ประตูออกนำเมื่อ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ตักบอลเข้าไปในเขตโทษ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ โฉบเข้ามาโหม่งคนเดียวโล่ง ๆ ทว่าดันโหม่งสะบัดมากไปทำให้บอลออกไปแบบไม่ได้ลุ้น
(https://static.siamsport.co.th/files/images/S__24657935.jpg)
น.32 ยังเป็นโอกาสของเจ้าถิ่นช้างศึกจากจังหวะที่ บดินทร์ ผาลา ได้โอกาสเปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ามาในเขตโทษ ก่อนจะเป็น ธีรศิลป์ แดงดา ที่ได้ขึ้นโขกแต่จังหวะขึ้นไม่ถนัด ทำให้โหม่งบอลเบาไปเข้ามือ บาบาเยฟ บาไตร์ รับเอาไว้ได้สบาย
น.42 ช้างศึก ได้โอกาสอีกครั้งจากจังหวะที่ สารัช อยู่เย็น ได้เก็บตกกระทุ้งเต็มข้อบริเวณหน้ากรอบเขตโทษ แต่ดันยิงใต้ลูกเกินไปบอลเหินข้ามคานออกหลังไป
ช่วงเวลาที่เหลือยังไม่ทีมใครทำอะไรกันได้ แถมรูปเกมยังดูอึดอัดด้วยกันทั้งสองทีม ก่อนจบครึ่งแรก ทีมชาติไทย ยังเสมออยู่กับ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน 0-0
(https://static.siamsport.co.th/files/images/S__24674314.jpg)
เข้าสู่ครึ่งหลังทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนผู้เล่น 4 คนรวด ถอดทาง สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, จักพัน ไพรสุวรรณ ออก และส่ง ปกรณ์ เปรมภักดิ์, เฉลิมศักดิ์ อักขี, ชญาวัต ศรีนาวงษ์ และพิชา อุทรา ลงสนามมาเล่นแทน
น.47 แข้งช้างศึก เกือบได้ประตูขึ้นนำจากจังหวะที่ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ ได้เปิดบอลแถวๆมุมธงฝั่งขวาเข้ามาในเขตโทษ และเป็น ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ที่ได้โขกลูกนี้เต็มๆ แต่ยอลดันไปตรงตัว บาบาเยฟ เบกมายรัต ตะคลุบรับเอาไว้ได้
น.57 ทีมชาติไทย พลาดโอกาสทองขึ้นนำจากจังหวะที่ ศุภนันท์ บุรีรัตน์ ยิงจากนอกกรอบไปแฉลบแนวรับเติร์กเมนิสถาน แต่บอลยังอยู่ในเขตโทษ ก่อนที่บอลจะขลุกขลิกและมาเข้าทาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ได้ซัดด้วยซ้าย แต่บอลดันพุ่งเฉียดเสาออกไปอย่างน่าเสียดาย
(https://static.siamsport.co.th/files/images/S__24674310.jpg)
น.61 เติร์กเมนิสถาน มีโอกาสบ้างเมื่อ อมานอฟ อาร์สลาน ได้โอกาสซัดเต็มข้อหน้ากรอบเขตโทษ แต่ยังไปตรงตัว กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่ได้เซฟครั้งแรกในเกมนี้ยังยืนตำแหน่งได้ดีรับเข้าซองไว้ได้
น.67 ทีมชาติไทย เปลี่ยนตัวคนที่ 5 ของเกมนี้ โดยส่งทาง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงมาเล่นแทน ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
น.75 ยังคงเป็นโอกาสของเจ้าถิ่นช้างศึก คราวนี้เป็นทาง วีระเทพ ป้อมพันธุ์ จ่ายบอลทะลุช่องให้กับ เชาว์วัฒน์ วีระชาติ ได้โอกาสซัดด้วยซ้ายข้างถนัด แต่บอลดันเหินข้ามคานออกหลังไป
(https://static.siamsport.co.th/files/images/S__24657941(1).jpg)
น.81 ทีมชาติไทย ขยับเปลี่ยนตัวคนที่ 6 เป็นคนสุดท้ายของเกมนี้ โดยส่ง อดิศักดิ์ ไกรษร ลงมาเล่นแทน บดินทร์ ผาลา
น.88 แฟนบอลเฮกันลั่นสนามเมื่อทีมชาติไทย มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อดิศักดิ์ ไกรษร ตัวสำรองที่เพิ่งถูกส่งลงมาได้บอล กลายเป็นซูเปอร์ซับ หลังได้โอกาสพาบอลหลุดเข้าไปในเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนจะปั่นด้วยขวาบอลโค้งๆเข้าไปตุงตาข่ายอย่างสวยงาม
จบเกม ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ไปด้วยสกอร์ 1-0 โดยแมตช์นี้จำนวนผู้ชมจากการประกาศของโฆษกในสนามมีจำนวนทั้งสิ้นถึง 16,614 คน ซึ่งถือเป็นกระแสที่ดีของวงการฟุตบอลของเมืองไทยในระดับทีมชาติ กับการมาจัดการแข่งขันที่ต่างจังหวัด
สำหรับทีมชาติไทย จะลงสนามโปรแกรมอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์นัดสุดท้าย พบกับ ทีมชาติบาห์เรน ในวันอังคารที่ 31 พ.ค.65 ที่สนามปทุมธานี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง ไทยรัฐ ทีวี 32 และช่อง AIS Play ก่อนจะหั่นรายชื่อให้เหลือ 23 คนสุดท้าย เพื่ออกเดินทางลุยศึกเอเชียน คัพ 2023 รอบคัดเลือก ที่ประเทศอุซเบกิสถานต่อไป
(https://static.siamsport.co.th/files/images/S__24690718.jpg)
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ (ผู้รักษาประตู), จักพัน ไพรสุวรรณ (เฉลิมศักดิ์ อักขี แทน น.46), วีระเทพ ป้อมพันธุ์, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, สารัช อยู่เย็น (พิชา อุทรา แทน น.46), เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, บดินทร์ ผาลา, ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์ (ปกรณ์ เปรมภักดิ์ แทน น.46), ธีรศิลป์ แดงดา (ชญาวัต ศรีนาวงษ์ แทน น.46)
ทีมชาติเติร์กเมนิสถาน : บาบาเยฟ บาไตร์ (ผู้รักษาประตู), อันนากูลีเยฟ กายช์มายรัต, อมานอฟ อาร์สลาน, อตาเยฟ อาห์เหม็ด, อันนาเยฟ มายรัต, ติตอฟ มิฮาอิล (นูร์มายราดอฟ เซลิม แทน น.65), โฮโจวอฟ โฮชเกลดิ (ซาปาร์มัมเมดอฟ ยาห์ลาส แทน น.65), บาชิมอฟ อับดีย์ (ซาปารอฟ เมคาน แทน น.65), บายอฟ เบกมายรัต (ทกาเยฟ เอลมาน แทน น.65), โฮจาเยฟ เรซูล (อัคมัมเมดอฟ เบเกนซ์ แทน น.79), ฮัลมัมเมดอฟ โรวเชน (เรเยปอฟ เบอร์ดิมายรัต แทน น.65)
แมน ออฟ เดอะ แมตช์ : อดิศักดิ์ ไกรษร (ทีมชาติไทย)