(https://static.siamsport.co.th/news/2022/06/30/news202206300343454.jpg)
ลิเวอร์พูล มีข่าวพัวพันกับ จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่ง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในช่วงซัมเมอร์นี้ แต่จนแล้วจนรอดดูเหมือนว่าพวกเขายังไม่สามารถคว้าดาวเตะรายนี้มาเสริมแกร่งได้ซะที
แน่นอนว่า "หงส์แดง" ไม่เคยปกปิดความต้องการของพวกเขาในการคว้าตัว เบลลิงแฮม มาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ อย่างไรก็ตามโอกาสที่พวกเขาจะได้ตัวนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้คงยาก แต่ถ้าเป็นในปี 2023 งานนี้มีโอกาสสูงที่จะได้ตัวแข้งเลือดผู้ดีรายนี้มาร่วมทัพ
อย่างไรก็ตามตลาดนักเตะในช่วงซัมเมอร์นี้ยังไม่ปิดตัว และอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ กระนั้นสิ่งที่น่าสนใจก็คือทำไม เจอร์เก้น คล็อปป์ ถึงอยากได้ เบลลิงแฮม มาร่วมทีม แล้วมีเหตุผลอะไรที่นักเตะถึงอยากมาสวมชุด "เดอะ เร้ดส์" งานนี้มาลองวิเคราะห์กัน
เบลลิงแฮม เจ๋งแค่ไหน ?
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1372155299-594x594.jpg)
นี่คือหนึ่งในนักเตะดาวรุ่งพรสวรรค์สูงในวงการลูกหนัง โดย เบลลิงแฮม พัฒนาฟอร์มการเล่นได้อย่างสุดยอดนับตั้งแต่ที่ก้าวขึ้่นมาเป็นตัวหลักของเบอร์มิงแฮม ซิตี้ ซึ่งเขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดตอนที่เปิดตัวกับทีมในวัย 16 ปีเมื่อปี 2019
เบลลิงแฮม ลงสนามให้กับยอดทีมแห่งถิ่นมิดแลนด์ส จำนวน 44 เกม ก่อนที่ผลงานจะไปเข้าตา ดอร์ทมุนด์ ซึ่งดึงตัวไปปลุกปั้นในปี 2020 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ (ราว 1,320 ล้านบาท) ขณะที่ เบอร์มิงแฮม ให้เกียรตินักเตะด้วยการรีไทร์เสื้อหมายเลข 22 ของเขาเลยทีเดียว
ปัจจุบันเขากลายเป็นนักเตะที่ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นผู้เล่นคีย์แมนของ "เสือเหลือง" โดยตะบันไปแล้ว 10 ประตูกับ 18 แอสซิสต์จากการลงสนาม 90 แมตช์ให้กับต้นสังกัด
สไตล์การเล่นเป็นแบบไหน ?
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1402956802-594x594.jpg)
ต้องยอมรับว่า เบลลิงแฮม เป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง โดยตลอด 90 แมตช์ที่เล่นให้กับ "เสือเหลือง" เจ้าตัวจะทำหน้าที่ในฐานะมิดฟิลด์ตัวกลางมาตลอดและก็เป็นตำแหน่งที่เขาเล่นได้อย่างโดดเด่น
อย่างไรก็ตามนักเตะสามารถที่จะขยับออกไปยืนบริเวณด้านกลางฝั่งซ้าย และขวา ในฐานะผู้เล่นหมายเลข 6 หรือมิดฟิลด์ตัวรับ และขยับไปยืนในฐานะผู้เล่นเบอร์10 หรือ เพลย์เมกเกอร์ก็ได้
เบลลิงแฮม เป็นนักเตะที่มีทักษะที่หลากหลาย แต่ถ้าหากจะพรรณาถึงตำแหน่งที่โดดเด่นที่สุดของเขาก็คือการเล่นเป็นโฮลดิ้ง มิดฟิลด์ เพราะเขาสามารถเล่นในฐานะกองกลางตัวสนับสนุน และยังมีศักยภาพในการเล่นเกมรุกจากทางริมเส้นทางสองฝั่งด้วย
แม้ว่าจะอายุเพียง 19 ปีแต่ เบลลิงแฮม เป็นผู้เล่นที่มีความนิ่ง และสามารถแบกรับแรงกดดันได้เป็นอย่างดีทั้งในเกมระดับทีมชาติ และสโมสร ซึ่งนี่เป็นคุณสมบัติชั้นยอดที่ทำให้เขาก้าวขึ้นมาเป็นยอดนักเตะ
เหตุผลที่ ลิเวอร์พูล อยากได้ตัวเขา
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240969207-594x594.jpg)
เหตุผลก็เหมือนกับทุกๆ สโมสรที่อยากได้เขา นั่นก็คือพรสวรรค์ที่สุดแสนโดดเด่นกับการเล่นในตำแหน่งของเขาทั้ง ๆที่อายุเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น และนี่คือสิ่งที่ ลิเวอร์พูล ต้องการเพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในแผงมิดฟิลด์
"หงส์แดง" มีแดนกลางที่ยอดเยี่ยมมากๆ ในยุคของ คล็อปป์ แต่ปัจจุบันทั้ง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (32 ปี), ติอาโก้ อัลกันทาร่า (31 ปี) และ เจมส์ มิลเนอร์ (36 ปี) อายุอานามเข้าสู่ช่วงท้ายอาชีพแล้ว ขณะที่ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ก็ดูไม่มีอนาคตกับทีม ส่วน ฟาบินโญ่ จะอายุ 29 ปีในซีซั่นนี้
ฉะนั้น คล็อปป์ จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการหาสายเลือดใหม่ในแดนกลางเข้ามาเสริมแกร่ง โดย เบลลิงแฮม เป็นผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับ "หงส์แดง" เพราะเขาสามารถเล่นได้หลากหลายในแผงมิดฟิลด์ หาก ลิเวอร์พูล เล่นในระบบ 4-3-3 และ 4-2-3-1
มิลเนอร์, แชมเบอร์เลน และ นาบี เกอิต้า จะหมดสัญญาปัจจุบันในปี 2023 ส่วน ติอาโก้ จะหมดสัญญาในปี 2024 และถ้าหาก เบลลิงแฮม ย้ายมาร่วมทีมเขาจะได้เป็นแข้งสายเลือดใหม่ในแดนกลางร่วมกับ ฟาบิโอ คาร์วัลโญ่, เคอร์ติส โจนส์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์
นักเตะมีค่าตัวเท่าไหร่
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240672501-594x594.jpg)
ซัมเมอร์นี้คงไม่ได้เห็น เบลลิงแฮม ในแอนฟิลด์
(https://static.siamsport.co.th/files/images/gettyimages-1240511559-594x594.jpg)
มีหลายเหตุผลที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าสาวก "เดอะ ค็อป" จะได้เห็น เบลลิงแฮม ย้ายมาสวมชุด "หงส์แดง" ในช่วงซัมเมอร์นี้ อันดับแรก ดอร์ทมุนด์ เพิ่งจะขาย เออร์ลิง ฮาแลนด์ ไปให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมิถุนายน
ด้วยเหตุนี้หากสโมสรดันขาย มิดฟิลด์เจ้าของเสื้อหมายเลข 22 ออกไปอีกในช่วงซัมเมอร์นี้คงสร้างความเสียหายให้กับทีมมหาศาลแน่นอน ฉะนั้นพวกเขาจึงไม่ต้องการทำให้ขุมกำลังของทีมอ่อนแอลงไปมากกว่านี้
ขณะเดียวกับด้าน "เดอะ เร้ดส์" ก็ใช้จ่ายเงินไปเยอะเกือบ 100 ล้านปอนด์ (ราว 4,400 ล้านบาท) ในการคว้าตัว นูนเญซ, คาร์วัลโญ่ และ คาลวิน แรมซี่ย์ ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่รีบร้อนที่จะทุ่มเงินเพิ่ม เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสถานะการเงินสโมสรได้
ยิ่งไปกว่านั้นปัจจุบันแดนกลางของ ลิเวอร์พูล ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง ฉะนั้นสาวก "เดอะ ค็อป" ยินดีที่จะรอคอยจนถึงช่วงซัมเมอร์หน้า ลองนึกภาพ เบลลิงแฮม ย้ายมาในถิ่นแอนฟิลด์ในช่วงเวลาที่เหมาะสม นี่จะเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับทีมอย่างแท้จริง