เข้าสู่โลกของพนันออนไลน์ Coingame777 เว็บคาสิโนน่าเล่นที่สุดในตอนนี้

มิเกล อาร์เตต้า ให้คำตอบชัดเจนใครจะได้ทำหน้าที่ยิงจุดโทษให้ อาร์เซน่อล หลัง บูคาโย่ ซาก้า พลาดในเกมล่าสุด

มิเกล อาร์เตต้า ผู้จัดการทีม อาร์เซน่อล จ่าฝูง พรีเมียร์ลีก ยืนยันว่า บูคาโย่ ซาก้า ปีกทีมชาติอังกฤษ จะยังคงได้ทำหน้าที่ยิงจุดโทษให้ "ปืนใหญ่" ต่อไป แม้ทำพลาดในเกมออกไปเสมอ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-2 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 เมษายน ที่ผ่านมา ก็ตาม

ซาก้า ยิงจุดโทษพลาดทำให้ อาร์เซน่อล อดฉีกหนี เวสต์แฮม ไปเป็น 3-1 และจากนั้นไม่นานก็โดน เวสต์แฮม ตามตีเสมอ 2-2 ส่งผลให้เวลานี้นำ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลือแค่ 4 คะแนน และ "ปืนใหญ่" ลงเล่นมากกว่า 1 นัด แถมทั้งสองทีมยังมีโปรแกรมต้องเจอกันเองที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม ช่วงปลายเดือนนี้ด้วย

ในงานแถลงข่าวก่อนนำ อาร์เซน่อล เปิดบ้านต้อนรับ เซาธ์แฮมป์ตัน คืนวันศุกร์ที่ 21 เม.ย.นี้ อาร์เตต้า ตอบนักข่าวที่ถามเรื่อง ซาก้า ยังจะได้ยิงจุดโทษต่อหรือไม่ว่า "ใช่ ถ้าไม่ ผมจะลงสนาม และส่งบอลให้เขาเอง และทำให้แน่ใจว่าเขาจะรับหน้าที่ครั้งต่อไป"

พร้อมกันนี้ กุนซือชาวสแปนิช ยังยกย่อง ซาก้า รวมถึงแนวทางที่เพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลให้การสนับสนุนนักเตะ แม้จะทำพลาดจนทำให้ทีมเสียแต้มสำคัญไปก็ตาม

"เขารักความรับผิดชอบ แต่เขาก็แบกรับอะไรไว้มากมายเช่นกัน เขาได้รับกำลังใจอย่างท่วมท้นจากทุกคนที่สโมสร สุดท้ายแล้วผมคิดว่ามันจะเป็นบางสิ่งในแง่บวกมากๆ ที่สามารถยกระดับเขาได้มาก เขาสมควรได้รับมัน" อาร์เตต้า ทิ้งท้าย

ริโอ เฟอร์ดินานด์ ระบุ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กองกลาง แมนฯ ยูไนเต็ด มีความสร้างสรรค์ในการเล่นที่น่าทึ่ง อย่างเช่นการที่มีส่วนร่วมกับการทำประตูเยอะจนแพ้แค่ ลิโอเนล เมสซี่ พร้อมเชื่อกว่าการได้เล่นร่วมกับ คริสเตียน เอริคเซ่น จะทำให้ บรูโน่ ก้าวไปอีกระดับได้

ริโอ เฟอร์ดินานด์ อดีตยอดกองหลังของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กล่าวยกย่อง บรูโน่ แฟร์นันด์ส มิดฟิลด์ "ปีศาจแดง" ว่ามีความสร้างสรรค์ในการเล่นที่ยอดเยี่ยม โดยบอกว่าหนึ่งในหลักฐานของเรื่องนั้นคือการที่เขามีส่วนร่วมกับการทำประตู (หมายถึงการยิงเองและการทำแอสซิสต์ได้) เป็นรองเพียง ลิโอเนล เมสซี่ แค่คนเดียวในช่วงหลายฤดูกาลที่ผ่านมา

บรูโน่ ถือเป็นกำลังหลักของ แมนฯ ยูไนเต็ด มาโดยตลอดนับตั้งแต่ที่ย้ายมาอยู่กับทีมเมื่อช่วงกลางฤดูกาล 2019-20 โดยจนถึงตอนนี้เขาส่วนร่วมกับการทำประตูให้ยอดทีมแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มากถึง 112 ลูกจากการลงเล่น 175 นัดในทุกรายการ แบ่งเป็นการยิงเอง 60 ลูกกับการทำ 52 แอสซิสต์

ผลงานดังกล่าวทำให้หากนับตั้งแต่ที่ บรูโน่ ย้ายมาอยู่กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วล่ะก็ เขาก็ถือเป็นเพียงหนึ่งใน 2 นักเตะจาก 5 ลีกใหญ่ของทวีปยุโรปที่ทำได้อย่างน้อย 50 ประตูและ 50 แอสซิสต์ โดยอีกคนคือ ลิโอเนล เมสซี่ ที่ยิงไป 81 ลูกกับการทำได้ 59 แอสซิสต์

เฟอร์ดินานด์ กล่าวระหว่างการจัดรายการของตัวเองว่า "การผ่านบอลของเขาและการสร้างโอกาสการทำประตูของเขามันยอดเยี่ยมมากๆ ผลงานของเขามันน่าทึ่งจนถึงขึ้นที่ว่ามีแค่ เมสซี่ เท่านั้นที่มีผลงานด้านการมีส่วนร่วมในการทำประตูอยู่ในระดับคู่คี่กับเขาหากนับตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่กับ ยูไนเต็ด"

"ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าเขาอยู่ในระดับเดียวกับ เมสซี่ หรอกนะ ไม่มีใครพูดเลยว่า บรูโน่ อยู่ในระดับเดียวกับ เมสซี่ แน่นอนว่าเขาไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย แต่มันมีแค่ เมสซี่ เท่านั้นที่ทำได้เหนือกว่าเขาในผลงานเหล่านั้น"

อดีตดาวเตะชาวอังกฤษแสดงความเชื่อด้วยว่าการมี คริสเตียน เอริคเซ่น คอยช่วยเหลือนั้นจะทำให้ บรูโน่ ก้าวขึ้นไปอีกระดับได้ "เขาต้องการ เอริคเซ่น เพื่อที่จะก้าวไปอีกขั้น เอริคเซ่น ผ่านบอลให้เพื่อนเล่นได้ง่ายหลายครั้งซึ่งนันถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับบรรดาเพื่อนร่วมทีมของเขา"

เดอะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ ระบุ สเปอร์ส เตรียมที่จะเจรจากับ หลุยส์ เอ็นรีเก้ ท่ามกลางกระแสข่าวลือว่า เชลซี ก็อยากได้ตัวกุนซือชาวสแปนิชเหมือนกัน โดยว่ากันว่า "ไก่เดือยทอง" อาจจะรียคุยกับเขาตั้งแต่ภายในสัปดาห์นี้เลย

ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สโมสรดังของศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กำลังวางแผนที่จะติดต่อไปหา หลุยส์ เอ็นรีเก้ เพื่อเกลี้ยกล่อมให้เขาเข้ามาเป็นผู้จัดการทีมแบบถาวรคนใหม่ ตามรายงานของ เดอะ เทเลกราฟ สื่อของเมืองผู้ดี

"ไก่เดือยทอง" จำเป็นต้องมองหากุนซือคนใหม่ภายหลังตัดสินใจปลด อันโตนิโอ คอนเต้ พ้นจากตำแหน่งไปเมื่อช่วงหลายวันก่อน ขณะที่ เอ็นรีเก้ ก็กลายเป็นคนว่างงานนับตั้งแต่ที่ต้องแยกทางกับทีมชาติสเปนตอนจบศึก ฟุตบอลโลก 2022 โดยเขาตกเป็นข่าวกับ เชลซี ด้วย

เดอะ เทเลกราฟ สเรมิว่า สเปอร์ส เล็งที่จะคุยกับ เอ็นรีเก้ อย่างเร็วที่สุดภายในสัปดาห์นี้เลย โดยไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเขาเป็นเป้าหมายเบอร์ 1 รึเปล่า รวมถึงเรื่องที่ว่า สเปอร์ส จะยื่นข้อเสนอให้พิจารณาเลยหรือไม่

นอกจาก เอ็นรีเก้ แล้วนั้น สเปอร์สน ยังให้ความสนใจกุนซืออีกหลายคน อย่างเช่น ยูเลี่ยน นาเกิลส์มันน์, แว็งซ็องต์ กอมปานี และ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เป็นต้น

สเตฟาโน ปิโอลี กุนซือ เอซี มิลาน ชี้ โอกาสเข้ารอบรองชนะเลิศ ยัง 50-50 แม้ว่าพวกเขาจะเอาชนะ นาโปลี ได้ก่อน 1-0 ในเกมเลกแรก

เอซี มิลาน ของ สเตฟาโน ปิโอลี เพิ่งเปิดรังเอาชนะ นาโปลี 1-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย นัดแรก เมื่อวันที่ 12 เม.ย.

และล่าสุดผู้จัดการทีมปีศาจแดงดำออกมาให้สัมภาษณ์ ว่า

"ผมยิ่งกว่ามีความสุขที่ได้สนุกกับค่ำคืนแบบนี้กับแฟนๆของเรา ประวัติศาสตร์ของมิลานเคยมีชัยชนะในแชมเปียนส์ลีกมามากมาย แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผมได้เห็นว่าเรามีความฝันที่จะมาตรงนี้ ดังนั้นเราต้องการที่จะมีความสุขกับมัน"

"เราไม่ได้เริ่มต้นได้ดีนัก ปล่อยให้นาโปลีได้โอกาสที่จะทำให้เราเจ็บปวด แต่เราเอาชนะนาโปลีในบ้านได้ครั้งแรกในรอบ 3 ปี แต่มันเป็นแค่ครึ่งแรกของรอบนี้ และยังมีอีกครึ่งที่ต้องเล่น"

"ก่อนเกมนี้ผมคิดว่าโอกาส 50-50 และยังคิดเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากจบเกมเลกแรก เรามีโชคนิดหน่อยก่อน แต่เราไม่ได้เสียสมดุลย์ เรายังมีสมาธิและทุ่มเทเพื่อบอล"

เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายจอมบุกเลือดผู้ดี จัดการขยายสัญญากับ เชลซี ออกไปแบบยาวๆ จนถึงปี 2027 เรียบร้อย พร้อมเปิดใจรู้สึกยินดีอย่างมาก ที่สโมสรอยากให้ตนเป็นส่วนหนึ่งในแผนการทำทีมระยะยาว

เชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศยืนยัน เมื่อวันอังคารที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมาว่า เบน ชิลเวลล์ แบ็กซ้ายคนสำคัญ ได้ตกลงเซ็นสัญญาฉบับใหม่ 4 ปี กับสโมสรเป็นที่เรียบร้อย

เดิมที ชิลเวลล์ เหลือสัญญากับ เชลซี ถึงช่วงซัมเมอร์ปี 2025 แต่กับสัญญาฉบับใหม่นี้ ทำให้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวัย 26 ปี ฝากอนาคตการค้าแข้งไว้ในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แบบยาวๆ จนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2027 เลยทีเดียว

"ผมรู้สึกชีวิตลงตัวที่ เชลซี และมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ในสนาม ดังนั้นผมจึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก ที่สโมสรอยากให้ผมเป็นส่วนหนึ่งในแผนการระยะยาว และผมเองก็มีความสุขมากๆ เช่นกัน ที่ได้ต่อสัญญาออกไป" ชิลเวลล์ เปิดใจ "ผมทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อความสำเร็จ และจะพยายามทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อสร้างรอยยิ้มให้กับแฟนๆ ที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นเสมอ"

ทั้งนี้ ชิลเวลล์ ย้ายมาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2020 และจนถึงตอนนี้เจ้าตัวลงเล่นให้ "สิงห์บลูส์" ไปแล้วรวมทุกรายการ 80 นัด ทำได้ 9 ประตู

โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ กองหน้าชาวบราซิเลียนของ ลิเวอร์พูล สโมสรขวัญใจมหาชนแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดใจครั้งแรกนับตั้งแต่ที่มีการยืนยันว่าจะอำลาถิ่นแอนฟิลด์ ในช่วงซัมเมอร์นี้

ดาวเตะเลือดแซมบ้า เพิ่งสวมบทฮีโร่โหม่งประตูในช่วงท้ายเกมช่วย "หงส์แดง" เสมอ "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล จ่าฝูง แบบสุดมันสกอร์ 2-2 ในเกมลีกสูงสุดเมืองผู้ดีเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับในฤดูกาลหน้า "เดอะ เร้ดส์" จะไม่มี "บ็อบบี้" อยู่ร่วมทีมอีกต่อไป โดยงานนี้เจ้าตัวเผยกับนักข่าวว่ารู้สึกใจหายจริงๆ เมื่อนึกถึงว่าตนกำลังจะโบกมือลาสโมสรอันเป็นที่รักหลังจบซีซั่นนี้

"ผมไม่อยากพูดอะไรมากนักเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะไม่อย่างนั้นผมคงจะสะเทือนอารมณ์ เพราะนี่คือมรดกที่สุดวิเศษพร้อมกับประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ สำหรับสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งนี้  ผมมีความสุขมากๆ และขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกอย่างที่เราได้สร้างเอาไว้ที่นี่ แต่มันเป็นสถานการณ์ใหม่สำหรับผม ผมไม่เคยผ่านเรื่องแบบนี้มาก่อน"

"ผมอธิษฐานกับพระเจ้าเยอะมากว่าให้ช่วยคุ้มครองผม และช่วยให้ผมพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ผมทำงานหนักเพื่อพร้อมลงสนามช่วยทีมเสมอ รวมทั้งเราจะสู้ไปด้วยกันจนกระทั่งจบฤดูกาล ผมต้องการจบทุกอย่างให้ดีที่สุดร่วมกับเพื่อนร่วมทีมของผม" ฟีร์มีโน่ ระบุ

จอนนี่ อีแวนส์ ระบุ แข้งหลายคนของ เลสเตอร์ เริ่มมีอาการหวาดวิตกกันแล้วว่าอาจจะตกชั้นในซีซั่นนี้ แต่กระตุ้นให้ทุกคนลุกขึ้นสู้กับสถานการณ์ในตอนนี้ให้ได้

จอนนี่ อีแวนส์ กองหลังกัปตันทีม เลสเตอร์ ซิตี้ ยอมรับว่าตอนนี้เพื่อนร่วมทีมของตนมีอาการกลัวกันแล้วว่าอาจจะตกชั้นจาก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ในฤดูกาลนี้ หลังจากปัจจุบันพวกเขาอยู่ในอันดับรองสุดท้ายของตารางคะแนน

เลสเตอร์ มีผลงานที่เลวร้ายอย่างมากจนไม่ชนะใครในลีกมา 8 นัดติดต่อกันแล้ว แถมในจำนวนนั้นยังเป็นการแพ้ถึง 7 เกมอีกต่างหาก โดยเกมล่าสุดพวกเขาถึงขั้นแพ้ บอร์นมัธ ซึ่งเป็นทีมในโซนท้ายตารางด้วยกัน 0-1 คารัง คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม จนทำให้ยังมีอยู่เพียง 25 แต้มจากการลงเล่น 30 นัด ตามหลัง เอฟเวอร์ตัน ทีมในอันดับ 17 อยู่ คะแนน

อีแวนส์ กล่าวว่า "คุณอาจจะมองเห็นถึงเรื่องนั้นได้จากในสนามเลยด้วยซ้ำ ผมสัมผัสได้ถึงความตื่นกลัวนิดๆ ในการเล่นของเรา บางครั้งมันจะเกิดความตื่นกลัวแบบนั้นได้ และคุณจะเห็นถึงเรื่องนั้นได้จากการเล่นของเรา"

"ตอนนี้หลายอย่างมันไม่เป็นใจกับเรา แต่เราต้องมีความแข็งแกร่งในการสู้กับมัน เราต้องออกไปทำงานให้หนักขึ้น นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำ เราต้องมีความสามัคคีกันและหวังว่าเราจะมีความมั่นใจกับความเชื่อมั่นที่จะมาพร้อมกับชัยชนะ"

เอริค เทน ฮาก นายใหญ่ทีม แมนฯ ยูไนเต็ด ระบุว่าการลงสนามอย่างถี่ยิบในซีซั่นนี้ส่งผลให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด กองหน้าคนสำคัญมีอาการบาดเจ็บรบกวนในเกม พรีเมียร์ลีก นัดเปิดบ้านพิชิต เอฟเวอร์ตัน 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เม.ย.

แมนฯ ยูไนเต็ด มีอันต้องเสีย แรชฟอร์ด ในช่วงสิบนาทีสุดท้ายจากเกมชนะ ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน เนื่องจากสตาร์ทีมชาติ อังกฤษ มีปัญหาบาดเจ็บ และต้องเขยกออกจากสนามให้ เวาท์ เว็กฮอร์สต์ ลงไปรับช่วงแทนซึ่งในเบื้องต้นกุนซือดัตช์ยังไม่รู้ว่าหัวหอกผิวสีจะร้างสนามไปนานแค่ไหน

"มันเป็นฟอร์มที่ดี เราลงเล่นสามนัดในหกวัน และพวกเขายังโชว์ฟอร์มได้ เอฟเวอร์ตัน เป็นทีมที่ยากแก่การเอาชนะ"

"เราต้องรอดูอาการของ มาร์คัส แรชฟอร์ด มันมองดูไม่ดีเลย เป็นอีกครั้งที่มันเกิดจากโปรแกรม คุณไม่อาจเล่นสามเกมในหกวันได้ เราต้องปกป้องนักเตะของเรา"

"ตอนนี้ผมยังบอกอะไรไม่ได้ คุณอาจต้องเป็นหมอ? เราต้องรอดูกัน แต่แน่นอนว่าเขาออกจากสนาม และเราต้องวินิจฉัย"

"บางเรื่องคุณไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ แต่โปรแกรมแบบนี้คุณสามารถหลีกเลี่ยงได้ ทำไม พรีเมียร์ลีก ให้เราเล่นเกมคู่ดึกวันอาทิตย์ก่อน และมาเล่นคู่แรกในวันเสาร์นี้? ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้อง"

"มันเสี่ยงทำให้นักเตะเจ็บ และพวกเขาไม่อาจฟื้นตัวได้โดยเร็ว นักเตะต้องการเวลาฟื้นร่างกาย ตอนนี้เราต้องหาทางแก้ไขสถานการณ์ของเรา และเราได้แต่สวดมนต์ภาวนาว่า แรชฟอร์ด จะเจ็บไม่นาน"

อาร์เซนอล สโมสรดังแห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจในการคว้าตัว มอยเซส ไกเซโด้ มิดฟิลด์ทีมชาติเอกวาดอร์ของ ไบรท์ตัน คู่แข่งร่วมลีก ไปเสริมทัพหลังจบฤดูกาลนี้ ตามรายงานเมื่อวันที่ 6 เมษานยนที่ผ่านมา

อาร์เซนอล กำลังมีฤดูกาลที่ยอดเยี่ยมด้วยผลงานจากบรรดาแผงกองกลางอย่าง โธมัส ปาร์เตย์, กรานิต ชาก้า และ จอร์จินโญ่ แต่ มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ "เดอะ กันเนอร์ส" ยังคงต้องการมิดฟิลด์อายุน้อยเข้ามาเพิ่มความสดให้กับทีมในซีซันหน้า

ในตลาดนักเตะเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ดาวเตะวัย 21 ปี เกือบจะย้ายจาก ไบรท์ตัน ไปเล่นกับ อาร์เซนอล เต็มทีแล้ว แต่สุดท้ายทาง "ปืนใหญ่" ปฏิเสธเพิ่มเงินค่าตัวตามที่ "นกนางนวล" ร้องขอ ซึ่งทำให้การเจรจาต้องยุติ

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด มีรายงานว่า อาร์เซนอล พร้อมจะหวนกลับไปล่าลายเซ็นของ ไกเซโด้ อีกครั้ง โดยเบื้องต้นพวกเขามองว่า เงินจำนวน 70 ล้านปอนด์ น่าจะเพียงพอทำให้ ไบรท์ตัน ใจอ่อนยอมปล่อยตัวนักเตะให้ย้ายไปร่วมทีม

นอกจาก อาร์เซนอล แล้ว เชลซี และ ลิเวอร์พูล ต่างก็กำลังจับตาดูสถานการณ์ของ ไกเซโด้ อย่างใกล้ชิดเช่นเดียวกัน

แฟร้งค์ แลมพาร์ด กุนซือขัดตาทัพ เชลซี คอนเฟิร์ม เมสัน เมาท์ ยังคงมีความสำคัญต่อทัพ "สิงห์บลูส์" พร้อมโวตนรู้ดีถึงความยอดเยี่ยมของดาวเตะรายนี้

แฟร้งค์ แลมพาร์ด รักษาการผู้จัดการทีม เชลซี สโมสรมหาเศรษฐีแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่า เมสัน เมาท์ กองกลางตัวรุกเลือดผู้ดี ยังคงเป็นผู้เล่นที่มีบทบาทสำคัญต่อทีมในฤดูกาลนี้

ปัจจุบัน เมาท์ เหลือสัญญากับ "สิงห์บลูส์" แค่ถึงช่วงซัมเมอร์ปีหน้า และยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ เกี่ยวกับเรื่องสัญญาฉบับใหม่ ทำให้ตลอดช่วงที่ผ่านมา ดาวเตะทีมชาติอังกฤษวัย 24 ปี มีข่าวเกี่ยวโยงกับการเตรียมอำลาถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ช่วงซัมเมอร์นี้ อย่างล่าสุดก็ถูกโยงกับ บาเยิร์น มิวนิค สโมสรยักษ์ใหญ่เมืองเบียร์ ที่ตอนนี้คุมทัพโดย โธมัส ทูเคิ่ล อดีตผู้จัดการทีม เชลซี

อย่างไรก็ตาม การหวนกลับมารับตำแหน่งกุนซือ เชลซี แบบขัดตาทัพของ แลมพาร์ด อาจเป็นการพลิกชะตาอนาคตของ เมาท์ ก็เป็นได้ 

"สำหรับผมแล้ว เมสัน เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมเสมอ ผมรู้ว่าผมจะได้อะไรจากตัวเขา ผมอยากเห็นเขาโชว์ฟอร์มในสนาม เรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และเขาเป็นผู้เล่นที่สำคัญมากๆ สำหรับ เชลซี" แลมพาร์ด กล่าว หลังได้รับการแต่งตั้งเป็นกุนซือ เชลซี รอบสอง เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เมาท์ ถือเป็นนักเตะคนโปรดของ แลมพาร์ด เพราะเจ้าตัวแจ้งเกิดตอนเล่นให้ ดาร์บี้ เค้าน์ตี้ แบบสัญญายืมตัว เมื่อฤดูกาล 2018-19 ซึ่ง ณ ตอนนั้น "แกะเขาเหล็ก" คุมทัพโดย แลมพาร์ด และหลังจากนั้นทั้งสองก็ร่วมงานกันต่อที่ เชลซี