(https://www.matichon.co.th/wp-content/uploads/2022/05/S03-3.jpg)
'เสธ.หมึก' เร่งแก้ไขจุดบกพร่องปั่นไทย ลั่นครั้งหน้าที่กัมพูชาต้องดีกว่านี้
"เสธ.หมึก" พล.อ.เดชา เหมกระศรี นายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้เดินทางไปต้อนรับคณะนักกีฬาจักรยานประเภทถนนทีมชาติไทย ซึ่งเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อกลางดึกของคืนวันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม หลังเสร็จภารกิจการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม โดยนักปั่นทีมชาติไทยทั้งประเภทเสือภูเขา และประเภทถนน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม คว้ามาได้ 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง เกินเป้าหมายที่วางเอาไว้ก่อนการแข่งขันคือ 2 เหรียญทอง
สำหรับผลงาน 3 เหรียญทอง ได้จาก ดาวน์ฮิลชาย เมธาสิทธิ์ บุญเสนห์, ไครทีเรียมหญิง จุฑาธิป มณีพันธุ์, ไทม์ไทรอัลบุคคลชาย พีระพล ชาวเชียงขวาง ส่วน 2 เหรียญเงินจาก ดาวน์ฮิลหญิง วิภาวี ดีคาบาเลส, ไครทีเรียมบุคคลชาย สราวุฒิ สิริรณชัย และ 4 เหรียญทองแดงได้จาก ครอสคันทรี ทีมรีเลย์ (กีรติ สุขปราสาท, พูนศิริ ศิริมงคล, ศุภักษร นันตะนะ, วรินทร เพ็ชรประพันธ์), ไทม์ไทรอัลบุคคลหญิง เพชรดารินทร์ สมราช, โรดเรซบุคคลชาย นวุติ ลี้พงษ์อยู่, โรดเรซทีมหญิง (จุฑาธิป มณีพันธุ์, ศุภักษร นันตะนะ, เพชรดารินทร์ สมราช, ชนิภรณ์ บัตริยะ, พรรณรายณ์ ราษี)
พล.อ.เดชา กล่าวว่า การแข่งขันจักรยานในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 มีชิงชัยทั้งหมด 12 รายการ แบ่งเป็นเสือภูเขา 5 รายการ และถนน 7 รายการ ซึ่งนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทย ทำผลงานคว้าเหรียญรางวัลมาได้ 9 รายการ เท่ากับว่าขาดไป 3 รายการ ที่ไม่ได้เหรียญ คือประเภทเสือภูเขา รายการครอสคันทรีชาย และครอสคันทรี่หญิง กับประเภทถนน รายการโรดเรซบุคคลหญิง ดังนั้นก็ต้องกลับไปทบทวนว่าในรายการที่พลาดเหรียญรางวัลไปนั้นเป็นเพราะเหตุใด และต้องแก้ไขอย่างไร เนื่องจากในระยะเวลาอันใกล้นี้ เรามีการแข่งขัน 2 รายการสำคัญที่จะต้องเร่งเตรียมทีม ได้แก่การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 5-16 พฤษภาคม 2566 และกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว ประเทศจีน ซึ่งคาดว่าจะแข่งขันในปีหน้าเช่นเดียวกัน
เสธ.หมึก กล่าวอีกว่า นอกจากนั้นก็จะต้องส่งนักกีฬาไปแข่งขันรายการใหญ่ ๆ ในต่างประเทศ อาทิ เวิล์ดคัพ, เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ หากฝึกซ้อมแล้วไม่ออกไปแข่งขันก็จะไม่ได้ประสบการณ์ ดังนั้นข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นในซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนาม จะต้องนำมาเป็นบทเรียน รวมทั้งต้องมีการวางแผนที่รอบคอบ ซึ่งกีฬาซีเกมส์ครั้งหน้าที่ประเทศกัมพูชา จะต้องทำให้ดีกว่านี้ นักกีฬาก็ต้องฝึกซ้อมให้มากกว่าเดิม สิ่งสำคัญที่สุดคือนักกีฬาทุกคนต้องมีหัวใจนักสู้ แต่ตอนนี้ทุกคนก็เป็นนักสู้อยู่แล้ว เช่น "บีซ" ร.อ.จุฑาธิป ไปชนะนักกีฬาเวียดนามได้ถึงถิ่นของเขาถือว่าสุดยอดมาก หรือ "ไก่" ส.อ.หญิง ศุภักษร ที่ประสบอุบัติเหตุรถล้มจนตะเกียบหัก ก็คว้ารถของคนอื่นไปแข่งขันต่อ ซึ่งก็ไม่ถนัดเพราะมิติและขนาดรถจะไม่เข้ากับสรีระของ ศุภักษร แต่ก็ยังสวมหัวใจนักสู้ช่วยเพื่อนร่วมทีมคว้าเหรียญทองแดงมาได้สำเร็จ นี่คือสิ่งที่ตนภาคภูมิใจว่านักกีฬาจักรยานมีหัวใจสู้เต็มที่ทุกคน
นายกสองล้อไทย กล่าวเสริมว่า ขอขอบคุณนักกีฬาทีมชาติไทยทุกคน ขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่ช่วยเป็นกำลังใจให้ เราจะทำหน้าที่นี้ต่อ และจะต้องทำให้ดีกว่านี้ในอนาคตข้างหน้า ต่อจากนี้จะสตาฟฟ์โค้ชทั้งประเภทเสือภูเขา และถนน ไปประเมินจุดบกพร่องที่เกิดขึ้น แล้วมาปรับปรุงหรือแก้ไขให้ดีกว่าเดิม สมาคมกีฬาจักรยานฯ ไม่เคยหยุดนิ่งอยู่กับที่ เราทำงานกันตลอดเวลาไม่มีวันพัก ดังเจตนารมณ์ในการบริหารงานที่ว่า "มุ่งมั่นพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ และต่อยอดไปสู่กีฬาอาชีพ" เราจะก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทย.