(https://www.siamsport.co.th/wp-content/uploads/2022/08/222-3.jpg)
เอริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หวังที่จะนำทัพ "ปีศาจแดง" เปิดรัง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เอาชนะ ลิเวอร์พูล ในศึก พรีเมียร์ลีก วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคมนี้ ให้ได้ หลังแพ้มาแล้ว 2 เกมติดต่อกัน และหล่นไปรั้งอันดับสุดท้ายของตาราง
แม้ "หงส์แดง" เริ่มต้นซีซั่นนี้ได้ไม่ดีหลังเสมอมา 2 นัดติด แต่แฟนบอล "ปีศาจแดง" ก็น่าจะมีความกังวลกับเกมแดงเดือดอยู่อย่างน้อย 3 เรื่องดังนี้
ไลน์อัพตัวจริงของ เทน ฮาก
(https://www.siamsport.co.th/wp-content/uploads/2022/08/1-21.jpg)
ปัญหาของ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่ได้มีแค่เรื่องฟอร์มการเล่นเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องนอกสนามอีกด้วย หลังดูเหมือนสปิริตภายในทีมย่ำแย่
เกมนี้ต้องดูว่า เทน ฮาก จะจัด 11 ตัวจริงอย่างไรหลังแนวรุกยังมีปัญหา เพราะ อองโตนี่ มาร์กซิยาล บาดเจ็บ ขณะที่อนาคตของ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็ยังไม่แน่นอน
ในนัดแรก เทน ฮาก ให้ คริสเตียน เอริคเซ่น รับบทฟอลส์ไนน์ ก่อนจะให้กลับมาเป็นกองกลางเหมือนเดิมซึ่งดูแล้วดีขึ้น
ขณะที่แนวรับก็มีปัญหาหลังหลายคนโชว์ฟอร์มไม่ดีทั้ง ดาบิด เด เคอา, ลีซานโดร มาร์ตีเนซ, ลุค ชอว์ และ ดิโอโก้ ดาโลต์ ส่วนมิดฟิลด์อย่าง เฟร็ด, สกอตต์ แม็คโทมิเนย์ และ บรูโน่ แฟร์นันด์ส ก็เล่นแย่ ทำให้ต้องดูกันว่า เทน ฮาก จะจัดตัวจริงอย่างไร
จะแก้ เกเก้นเพรสซิ่ง ของ คล็อปป์ อย่างไร?
(https://www.siamsport.co.th/wp-content/uploads/2022/08/2-23.jpg)
นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด แสดงให้เห็นว่า มีปัญหาหลังโดนคู่แข่งเข้ากดดันหนักในสองเกมแรก ส่งผลให้แผนของ เทน ฮาก ไม่ได้ผล
มิดฟิลด์คู่กลางทั้ง เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ เจอปัญหาออกบอลไม่ได้เลยเวลาเจอทีมคู่แข่งเข้าเพรสซิ่งเร็ว และเมื่อทำเกมแดนกลางไม่ได้ก็ส่งปัญหาไปถึงทั้งเกมรุกและเกมรับ
ในเกมแดงเดือดนักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเจอแท็กติก เกเก้นเพรสซิ่ง ที่ขึ้นชื่อของ เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล อย่างแน่นอน
หัวใจหลักของ เกเก้นเพรสซิ่ง ไม่ใช่เพียงแค่การสั่งให้ทีมเพรสใส่คู่แข่ง แต่ยังเป็นการเพรสโดยเน้นโซนเป็นแห่งๆ และฉวยโอกาสกลับมาครอบครองบอลให้ได้ในแดนคู่แข่งด้วย
หากลูกทีมของ เทน ฮาก แก้เกมเพรสซิ่งของ ลิเวอร์พูล ไม่ได้ก็มีโอกาสสูงที่จะเริ่มต้นฤดูกาลด้วยการแพ้ 3 นัดติดต่อกัน
สกอร์ 3 นัดหลังในลีกยังฝังใจ
(https://www.siamsport.co.th/wp-content/uploads/2022/08/GettyImages-1348618419.jpg)
แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะเพิ่งถล่ม ลิเวอร์พูล 4-0 ในเกมปรีซีซั่นที่ประเทศไทย แต่นั่นก็เป็นแค่นัดอุ่นเครื่องเท่านั้น และนักเตะทั้งสองทีมก็ยังไม่ได้มีความพร้อม ทำให้ไม่สามารถวัดอะไรได้มาก
หากดูแค่เฉพาะในเกม พรีเมียร์ลีก สามนัดหลังสุดเป็นฝ่าย ลิเวอร์พูล ที่เอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด มาแบบสบายๆ ทั้งหมดด้วยสกอร์ 2-4, 0-5 และ 4-0
แม้ในเวลานี้ "หงส์แดง" จะมีนักเตะบาดเจ็บหลายราย ขณะที่ ดาร์วิน นูนเญซ ก็ติดโทษแบน แต่ขุมกำลังที่เหลือก็ยังน่ากลัว โดยเฉพาะ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ หลุยส์ ดิอาซ สองแนวรุกคนสำคัญ