ก่อนลาแอนฟิลด์!เปิดโผ 11 แข้งดีสุด-แย่สุดของ ลิเวอร์พูล ที่ผ่านมือ ไมเคิ่ล เอ็ดเ

[ทีเด็ดวันนี้]

เจอร์เก้น คล็อปป์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และนักเตะอีกหลายๆ คนได้รับเครดิตมากมายที่ช่วยนำ ลิเวอร์พูล ก้าวขึ้นสู่ยุคทองในโลกลูกหนัง แต่อีกหนึ่งคนที่สมควรได้รับการยกย่องอย่างมากเช่นกัน นั่นก็คือ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ !

     เอ็ดเวิร์ดส์ ก้าวข้ามารับบทบาทผู้อำนวยการกีฬา "หงส์แดง" ในฤดูกาล 2016/2017 โดยเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาดึงผู้เล่นสำคัญหลายคนที่มีส่วนในการเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ลิเวอร์พูล

     นอกจากความสามารถในการคว้าตัวนักเตะใหม่เข้ามาในถิ่นแอนฟิลด์แล้ว เอ็ดเวิร์ดส์ ยังมีความเก่งฉกาจในการขายผู้เล่นบางคนเพื่อนำเงินเข้าสู่สโมสรยกตัวอย่าง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ที่ขายให้กับ บาร์เซโลน่า 145 ล้านปอนด์ (ประมาณ 6,380 ล้านบาท) เมื่อเดือนมกราคม 2018

     เม็ดเงินที่ขาย "คูตี้" ถูกแปรเปลี่ยนนำไปใช้ในการซื้อตัว ฟาน ไดค์ และ อลีสซง เบ็คเกอร์ ซึ่งแน่นอนว่านี่เป็นหนึ่งในความสุดยอดของ เอ็ดเวิร์ดส์ ที่ได้รับคำชื่นชมอย่างมากจากบรรดาสาวก "เดอะ ค็อป"
 
     กระนั้น เอ็ดเวิร์ดส์ ก็เป็นปุถุชนคนธรรมดาย่อมมีผิดพลาดได้เช่นกัน โดยงานนี้เรามาดูกันว่าผอ.กีฬาคนเก่งของ ลิเวอร์พูล เคยดึงนักเตะคนไหนบ้างที่สุดยอด และน่าผิดหวังที่สุดเข้าสู่รั้วแอนฟิลด์ !

 

    11 ตัวจริงที่ดีที่สุด
     หากพูดถึง 11 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในยุคที่ เอ็ดเวิร์ดส์ ดึงตัวมาร่วมทัพ ต้องบอกว่าหลายๆ คนสามารถนึกถึงชื่อได้แทบทุกคน เพราะผู้เล่นเหล่านั้นได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วจากผลงานที่สุดยอดของพวกเขานับตั้งแต่ย้ายมาสวมเครื่องแบบ "หงส์แดง"

     เริ่มต้นด้วยตำแหน่งผู้รักษาประตู อลีสซง ถูกดึงตัวมาจาก โรม่า ด้วยสนนราคาถึง 67 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,948 ล้านบาท) เพื่อนำมาแทนที่ ลอริส คาริอุส นายด่านชาวเยอรมันซึ่งทำผลงานได้งามหน้าในเกมนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2018 ซึ่งแพ้ เรอัล มาดริด

     นายด่านชาวบราซิเลียนได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโกลที่เก่งที่สุดในพรีเมียร์ลีก หรือตอนนี้จะพูดว่าในระดับโลกก็ไม่แปลกอะไร เขาทำผลงานได้คงเส้นคงวา และยึดตัวจริงมาตลอด ส่งผลให้ คาริอุส, ซิมง มิโญเลต์ และอีกหลายๆ คนต้องกระเด็นออกจากมือ 1

     ในขณะที่แผงแบ็กโฟร์ซึ่งเคยเป็นจุดอ่อนที่สุดของทีม กลับกลายเป็นจุดแข็งโป๊ก โดยมี โฌแอล มาติป ย้ายมาเล่นแบบฟรีเอเยนต์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ราคาแค่ 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 352 ล้านบาท) และ ฟาน ไดค์ ค่าตัวแพงระดับ 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,300 ล้านบาท) 

    ด้านแผงกองกลาง เอ็ดเวิร์ดส์ โชว์กึ๋นในการเจรจาคว้าตัว จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม (25 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,100 ล้านบาท), ฟาบินโญ่ ( 44 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,936 ล้านบาท) และ ติอาโก้ อัลกันทาร่า (27 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,188 ล้านบาท)

    ส่วนแนวรุกต้องยอมรับว่า เอ็ดเวิร์ดส์ ทำผลงานได้อย่างสุดยอด ด้วยการดึง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มาร่วมสังกัดในสนนราคาแค่ 34.3 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,509 ล้านบาท) เท่านั้น นอกจากนี้เขายังมีส่วนในการเจรจาคว้าตัว ซาดิโอ มาเน่ (30 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,320 ล้านบาท), ดีโอโก้ โชต้า (45 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,980 ล้านบาท) และเมื่อเร็วๆ นี้ หลุยส์ ดิอาซ (ราคาเริ่มต้น 37 ล้านปอนด์ ประมาณ 1,628 ล้านบาท)

     การเสริมทัพที่ยอดเยี่ยมนำไปสู่ความสำเร็จมากมายของสโมสรได้แก่การคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, คลับ เวิลด์ คัพ, เอฟเอ คัพ และ คาราบาว คัพ



    11 ตัวจริงที่ดีที่สุดจากการเสริมทัพของ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์
    ผู้รักษาประตู : อลีสซง เบ็คเกอร์

    กองหลัง : แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, โฌแอล มาติป

    กองกลาง : จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม, ฟาบินโญ่, ติอาโก้ อัลกันทาร่า

    กองหน้า : หลุยส์ ดิอาซ, ซาดิโอ มาเน่, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดีโอโก้ โชต้า
 


    11 ตัวจริงที่แย่ที่สุด
     มีดีย่อมมีแย่เป็นธรรมดาของโลก ! ชื่อแรกที่ทุกๆ คนนึงถึงว่าเป็นการเซ็นสัญญาที่น่าผิดหวังที่สุดก็คือ คาริอุส ซึ่งทำผลงานย่ำแย่จนสร้างความเสียหายให้กับทีม โดยเขาย้ายมาสู่ถิ่นแอนฟิลด์ด้วยค่าตัว 4.7 ล้านปอนด์ (ประมาณ 206 ล้านบาท)

     ด้านแนวรับแฟนบอล "หงส์แดง" หลายคนคงลืมชื่อของ เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก ซึ่งดูเหมือนจะมีอนาคตสดใสจนถึงขั้นได้รับฉายาว่า "นิว ฟาน ไดค์ เลยทีเดียว แต่กลายเป็นว่าเม็ดเงิน 4.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 193 ล้านบาท) ที่จ่ายไปไม่คุ้นเลยเพราะนักเตะไม่เคยได้ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกแม้แต่เกมเดียว จนต้องถูกส่งไปเล่นแบบยืมตัวกับ เปรสตัน

     อีกรายก็คือ เบน เดวิส (1.6 ล้านปอนด์ ประมาณ 70 ล้านบาท) และ โอซาน คาบัค (ยืมตัว) ที่ถูกดึงตัวมาร่วมทัพในช่วงที่ทีมประสบวิกฤติแนวรับบาดเจ็บยกแผงช่วงกลางซีซั่น 2020/2021 แต่ก็ล้มเหลวไม่มีชิ้นดี เพราะสุดท้ายแล้ว คล็อปป์ ต้องเลือกใช้ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน กับ ฟาบินโญ่ ขยับลงมาเล่นในกองหลังแทน สำหรับอีกคนก็คือ รักนาร์ คลาวาน (3.5 ล้านปอนด์ ประมาณ 154 ล้านบาท)

     สำหรับในแผงกองกลางก็คือ มาร์โก กรูยิช (5.1 ล้านปอนด์ ประมาณ 224 ล้านบาท) ซึ่งไม่สามารถแสดงศักยภาพของตัวเองออกมาได้เลย จนสุดท้ายโดนปล่อยไปเล่นกับ เอฟซี ปอร์โต้ ด้วยค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 462 ล้านบาท)

      นาบี เกอิต้า และ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน ทั้งสองคนถือว่าไปได้สวยตอนที่ย้ายมาร่วมทัพ "หงส์แดง" แต่น่าเสียดายที่อาการบาดเจ็บทำให้ศักยภาพของพวกเขาดร็อปลงไปเยอะ และนั่นทำให้ค่าตัว 52.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,323 ล้านบาท) และ 35 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,540 ล้านบาท) ตามลำดับ เป็นเหมือนการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

      ด้านแนวรุก ทาคูมิ มินามิโนะ 7.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 330 ล้านบาท) ซึ่งเป็นนักเตะที่มีส่วนสำคัญในการช่วย "หงส์แดง" คว้าแชมป์ คาราบาว คัพ และ เอฟเอ คัพ ซีซั่นที่ผ่านมา แต่ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอจากนายใหญ่เลือดด๊อยท์ช

     แล้วมีใครจำชื่อ โดมินิก โซลันเก้ ได้ไหม นักเตะย้ายมาด้วยราคา 4 ล้านปอนด์ (ราว 176 ล้านบาท) โดยเขาเป็นผู้เล่นดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากๆ ในตอนนั้น แต่สุดท้ายก็จากไปแบบเงียบ และปัจจุบันเป็นผู้เล่นของบอร์นมัธไปแล้ว

      ตบท้ายด้วย เซอร์ดาน ชากีรี่ (13 ล้านปอนด์ ประมาณ 572 ล้านบาท) เขาอาจมีส่วนสำคัญในหลายๆ เกมของ ลิเวอร์พูล แต่ก็ไม่ค่อยได้ลงเล่นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ โดยปกติจะทำหน้าที่เป็นตัวสำรองอดทน จนสุดท้ายก็ต้องย้ายไปเล่นกับ โอลิมปิก ลียง ส่วนปัจจุบันเดินทางไปทำมาหารับประทานที่เมืองมะกันกับสโมสรชิคาโก้ ไฟร์



    11 ตัวจริงที่แย่ที่สุดจากการเสริมทัพของ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์
    ผู้รักษาประตู : ลอริส คาริอุส

    กองหลัง : เบน เดวิส,  รักนาร์ คลาวาน,เซปป์ ฟาน เดน เบิร์ก, โอซาน คาบัค

    กองกลาง : อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, มาร์โก กรูยิช, นาบี เกอิต้า

    กองหน้า :  ทาคูมิ มินามิโนะ,  โดมินิก โซลันเก้, เซอร์ดาน ชากีรี่

     ทั้งนี้ เอ็ดเวิร์ดส์ เตรียมจะอำลาบทบาทของเขากับ "เดอะ เร้ดส์" ในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ และว่ากันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ เชลซี จับจ้องตาเป็นมันที่จะยื่นข้อเสนอเพื่อดึงตัวเขาไปร่วมงาน โดยหวังจะใช้ความสามารถที่แสนเฉียบคมของเขาในการช่วยพัฒนาเรื่องการเสริมทัพนั่นเอง